เที่ยวโอซาก้า สัมผัสกับญี่ปุ่นยุคใหม่

          สวัสดีครับ ผมจะพามาเที่ยวโอซาก้า แน่นอนว่าชื่อนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักใช่ไหมครับ เพราะเมืองนี้เปรียบได้กับเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการขนส่งในภูมิภาคคันไซและเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของญี่ปุ่นรองจากเมืองหลวงโตเกียวครับ

            หลังจากก่อนหน้านี้ผมผาทุกท่านไปเที่ยวแบบย้อนยุคการการไปเที่ยวเกียวโต แล้ว ก็ถึงเวลามา Osaka กันแล้วครับถึงแม้ว่าเมืองโอซาก้าถูกรายล้อมไปด้วยเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น เกียวโต โกเบ นะระ ที่สามารถเดินทางไปเที่ยวได้แบบเช้าไปเย็นกลับแต่เมือง     การมาเที่่ยวโอซาก้าก็ยังมีเสน่ห์ภายในตัวเองที่เหล่านักท่องเที่ยวจะต้องหลงใหลครับ เรามาค้นหามนต์เสน่ห์ของความเป็นญี่ปุ่นในยุคใหม่ในเมืองนี้กันครับ

โอซาก้า
โอซาก้า

            การเดินทางมาที่เมืองเที่ยวโอซาก้าไม่ยากอย่างที่คิดครับ มีสายการบินทั้งโลว์คอร์สและแบบปกติบินตรงไปกลับ กรุงเทพ-คันไซ ทุกวันครับ หากเช็คช่วงโปรโมชั่นดีๆอาจจะได้บินมาเที่ยวแบบคุ้มสุดๆก็ได้ครับ

โอซาก้า
ร้าน Endo Sushi เป็นร้านซูชิชื่อดังของโอซาก้า

  เช้านี้ที่โอซะกะของผมเริ่มที่นี่ครับ ร้าน Endo Sushi เป็นร้านซูชิชื่อดังของเมืองโอซะกะที่นักท่องเที่ยวจะต้องมาลิ้มลองครับ ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ตั้งอยู่ที่ตลาดปลาโอซะกะครับ ทีเด็ดของร้านคือ

โอซาก้า
ซูชิ

ข้าวอุ่นๆ กับชิ้น ปลาสดชิ้นโตๆ ที่เมื่อเข้าปากไปแล้วรสชาติอันโอชะนี้จะติดตรึงใจทุกๆท่านไปอีกนานเลยครับ รับประกันได้เลย เนื้อปลาบังตัวข้าวมิดเลยครับ แค่เห็นก็น้ำลายไหลแล้วครับ อิอิ^^

            เมื่อท้องอิ่มแล้วก็ไปจุดหมายแรกของเราเลยครับ เป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก “ปราสาทโอซาก้า” หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองโอซะกะที่มีความสูงถึง 55 เมตรและประกอบไปด้วยชั้นต่างๆ 8 ชั้น บริเวณรอบๆตัวปราสาทยังถูกจัดเป็นสวนสาธารณะให้ได้เดินชมธรรมชาติกันด้วยครับ

            ในส่วนยอดของตัวปราสาทมีชื่อว่า Tenshukaku ซึ่งในอดีตเคยถูกฟ้าผ่าเสียหายแต่ก็ถูกบูรณะขึ้นมาใหม่โดยเงินบริจาคของชาวเมืองโอซาก้าเอง ถือว่าชาวญี่ปุ่นยุคใหม่ยังคงให้ความสำคัญกับสมบัติโบราณของชาติเขาจริงๆครับ ถ้าอยากถ่ายรูปกับตัวปราสาททั้งหลังล่ะก็  ผมขอแนะนำตรงสวนด้านหน้าก่อนเข้าปราสาทเลยครับ สวยงามตามท้องเรื่องกันเลยทีเดียว

โอซาก้า
ปราสาทโอซาก้า

     จากปราสาทโอซาก้าผมจะมุ่งหน้าไปชมเทศกาลดอกซากุระของเมืองโอซาก้าครับ ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีมักจะเป็นช่วงที่ดอกซากุระบานครับ ทางเมืองโอซะกะมักจะจัดงานเทศกาลชมดอกซากุระครับ ในช่วงนี้ทางหน่วยงานการท่องเที่ยวของโอซาก้าจะมีบริการให้นั่งเรือชมดอกซากุระด้วยครับ  ที่สำคัญมากๆคือหากท่านซื้อ “Osaka Amazing Pass” จะสามารถขึ้นเรือชมดอกซากุระได้ฟรีครับ ระหว่างที่นั่งเรือชมดอกซากุระจะมีเพลงบรรเลงให้เราได้เพลิดเพลินกับบรรยากาศไปด้วยครับ

โอซาก้า
เที่ยวโอซาก้า

ชมอย่างไรก็ไม่มีวันเบื่อครับ ความสวยงามของดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิที่มีเมืองโอซาก้าเป็นฉากหลัง

ชมดอกซากุระกันเรียบร้อยแล้วได้เวลาไปชมปากอ่าวOsaka จากมุมสูงกันแล้วครับ สิ่งที่จะพาเราขึ้นไปชมอ่าวโอซะกะในมุมมองแบบ Bird eye view ก็คือชิงช้าสวรรค์ยักษ์ที่มีชื่อว่า Tempozan Giant Ferrs Wheel ครับ และเช่นเคยครับหากท่านใดได้ซื้อ Osaka Amazing Passไว้สามารถขึ้นได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ และหากท่านใดที่ไม่กลัวความสูงสามารถขอขึ้นกระเช้าที่มีพื้นเป็นกระจก สามารถดูวิวได้รอบกระเช้าเลยครับ ส่วนผมแค่แบบธรรมดาก็ขาสั่นแล้วครับ แหะๆ

โอซาก้า
โอซาก้า
โอซาก้า
วิวในมุมสูงโอซาก้าในเวลาเย็นๆ

      บางครั้งจะเห็นเรือสินค้าแล่นเข้ามาด้วยครับ    เมื่อลงมานั่งพักจากอาการกลัวความสูงกันแล้ว ได้เวลาไปขึ้นที่สูงอีกที่ครับ จุดหมายต่อไปของเราคือตึก Umeda Sky Building ครับ ที่ชั้นดาดฟ้าของตึกนี้ ที่มีชื่อว่า Floating Garden หรือสวนลอยฟ้าที่ให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองโอซะกะแบบ 360 องศากันเลยครับ การจะขึ้นไปจะต้องเสียค่าเข้าครับ แต่เช่นเคยครับหากใครถือ Osaka Amazing Pass ก็ผ่านฉลุยครับ สิ่งที่น่าอัศจรรย์ของตึกนี้คือลิฟต์ครับมันจะพาท่านๆพุ่งขึ้นไปจากชั้น1-40 ภายในเวลาไม่ถึง 2 นาทีแต่ท่านจะไม่รู้สึกอะไรนอกจากหูอื้อครับ ผมขึ้นครั้งแรกยังงงเลยครับ ฮ่าๆ

โอซาก้า
โอซาก้า

  เมื่อมาถึงชั้นบนสุด เราจะต้องขึ้นบันไดเลื่อนข้ามฝากตึกเพื่อขึ้นไปชั้นดาดฟ้าครับ เสียวสันหลังไปอีกแบบครับ เมื่อมาถึงชั้นดาดฟ้าหากกล้องใครสามารถถ่ายภาพแบบ Panorama ได้จะสามารถถ่ายวิวเมืองโอซะกะได้ทั้งเมืองเลยครับ

โอซาก้า
ชั้นดาดฟ้า

เดินลงมา 1 ชั้นมีที่นั่งจัดสำหรับครอบครัวหรือคู่รักได้ดูพระอาทิตย์ตกดินครับ โรแมนติกมากๆครับ

               นั่งชมวิวเพลินๆเผลอแปบเดียวพระอาทิตย์ก็ตกดินครับ ได้เวลาที่เราจะไปชมย่านแสงสีย่ามค่ำคือของการมาเที่ยวโอซาก้ากันครับ ย่านนี้มีชื่อว่าย่าน ดงโทโบริ (Dontobori) สามารถไปได้โดยรถไฟใต้ดินลงที่สถานี Namba จากนั้นเดินต่อไปอีกหน่อยก็จะถึงถนนสายนี้ ที่ทอดตัวยาวพร้อมร้านอาหารมากมายให้ได้เลือกชิมครับ ท่านใดที่ชอบการกิน ผมขอบอกเลยครับว่าที่นี่คือสวรรค์ของท่านครับ เพราะดูเหมือนว่าไม่ว่าร้านไหนๆก็น่าเข้าไปลิ้มลองจริงๆครับ ใครกำลังลดน้ำหนักมีโอกาสตบะแตกสูงมากๆๆ

โอซาก้า
โอซาก้า

    เพื่อนชาวโอซาก้าพาผมมาทาน ปิ้งย่าง Yakiniku สไตล์ โอซะกะที่ร้านนี้ครับ อร่อยใช้ได้เลยครับ ราคาไม่แพงด้วยครับ จากคำบอกเล่าของเพื่อน เค้าบอกว่าร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่และมีชื่อเสียงด้านปิ้งย่างมากที่สุดในย่านดงโทโบริครับ ใครอ่านชื่อร้านออกก็เรียนเชิญไปลิ้มลองครับ ส่วนใครอ่านไม่ออกก็ให้สังเกตคุณลุงหน้าดุๆคนนี้ครับ ยืนขู่ลูกค้าอยู่หน้าร้านแต่ลูกค้าก็ไม่ยักจะกลัวครับ เข้าไปถ่ายรูปอย่างที่เห็นฮ่าๆ^^

                กินปิ้งย่างกันจนอิ่มหนำสำราญกันแล้วเดินจากร้านมาไม่ไกลก็พบกับป้ายกูลิโกะที่ใครๆต่างก็ต้องมาถ่ายรูปด้วยครับ ถ้าไม่มีรูปคู่กับป้ายนี้ใครๆก็ไม่เชื่อครับว่ามาโอซาก้าครับ ^^

                การทัวร๋์โอซาก้าแบบสบายๆของผมจบลงที่ตรงนี้ครับ คำแนะนำเล็กๆน้อยๆสำหรับท่านที่สนใจมา โอซาก้าคือ ให้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่เราจะไปและวิธีการเดินทางให้ดีครับ ข้อมูลต่างๆสามารถหาได้จาก Tourist Information Center ที่อยู่ตามสถานีรถไฟและสนามบินครับ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ท่องเที่ยวง่ายครับมีป้ายบอกทางตลอดเพียงแต่ต้องรู้จักสังเกตนิดหนึ่งครับรับรองว่าการมาเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองจะไม่ใช่เรื่องยากเกินไปอย่างแน่นอน

               ก็จบแล้วครับสำหรับการเที่ยวโอซาก้าของผมขอให้ทุกท่านโชคดีมีความสุขกับชีวิต แล้วอย่าลืมออกไปดูโลกกว้างเปิดโลกทัศน์ตามโอกาสด้วยนะครับ แล้วท่านจะไม่เสียใจเชื่อผมเถอะครับ ^^

 

By  สิโรดม

สงวนลิขสิทธิ์ห้ามนำภาพถ่ายและบทความไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเด็ดขาด

รีวิว

การเดินทาง
ความคุ้มค่าและความน่าสนใจ

รวม

โอซาก้าเป็นเมืองที่น่าเที่ยวมากครับ อาหารอร่อย มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งมากมายที่น่าสนใจ เที่ยวได้หลายวันโดยไม่เบื่อแน่นอนครับ

User Rating: Be the first one !
Facebook Comments Box

Related Articles